ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้เทคโนโลยีการเกษตรโดยเฉพาะจักรกลการเกษตรต่างๆ เข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะการเก็บเกี่ยวข้าวในปัจจุบันได้นำเอาเครื่องเกี่ยว-นวด หรือ เครื่องคอมบาย (combine) ซึ่งก็คือการนำเอาเครื่องเกี่ยวและเครื่องนวดมาไว้ด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตามปัญหาหรือข้อด้อยของเครื่องเกี่ยวนวดดังกล่าวคือ ค่าจ้างรถเก็บเกี่ยวที่มีราคาสูงขึ้นอยู่ตลอดเวลา คืออยู่ระหว่างไร่ละ 450-600 บาท อีกทั้งรถเกี่ยวข้าวเองไม่ค่อยมีคิวว่าง เพราะช่วงนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยวจึงมีงานจ้างเข้ามามาก อีกทั้งปัญหาการปนจากข้าวพันธุ์อื่นๆ หรือข้าววัชพืชจากแปลงนาที่มีการระบาดไปสู่แปลงนารายอื่น ทำให้เกิดปัญหาในแง่คุณภาพข้าวตามมา และเป็นข้ออ้างที่ทางโรงสีเอามากดราคาข้าวของเกษตรกรที่ใช้เครื่องดังกล่าว ให้มีราคาต่ำลง ดังนั้นเกษตรกรจึงได้เกิดแนวความคิดที่จะแก้ปัญหานี้ขึ้น โดยการแก้ปัญหานี้ต้องคำนึงถึงหลักที่ว่าเป็นวิธีการเก็บเกี่ยวข้าวที่ใช้แรงงานคนและเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าและสามารถเก็บเกี่ยวได้ทันเวลาด้วย อีกทั้งยังสามารถทำให้เกษตรกรรายย่อยที่มีสมาชิกในครัวเรือนน้อยสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ตามปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง“ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา ได้ใช้เครื่องตัดหญ้าแบบสะพายหลัง มาดัดแปลงใช้ในการเกี่ยวข้าว ซึ่งจากการสัมภาษณ์เกษตรกรรายนี้ พบว่าใช้ เครื่องตัดหญ้าสะพายหลัง
คือกรงเกี่ยวข้าวที่ทำด้วย สแตนเลส และมีผ้าตาข่ายคลุราคา 300 บาท เพื่อใช้ป้องกันการร่วงหล่นของเมล็ดข้าว และเวลาเกี่ยวข้าวด้วยเครื่องตัดหญ้าทำให้ข้าวที่เกี่ยวเสร็จล้มไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้เกิดความสะดวกในการเก็บหลังเกี่ยว (ภาพที่ 5 - ภาพที่ 8) ใบมีดตัดหญ้าให้ใช้แบใบเลื่อยวงกลม หรือวงเดือนซึ่งเป็นภาษาที่ชาวบ้านใช้ ขนาดเส้นฝ่าศูนย์กลาง 9 นิ้ว และใบเลื่อยหนา 2.6 มม. (Circular saw blade for wood cutting) ราคา 450 บาทต่ออัน
โดยปกติการเกี่ยวข้าวโดยใช้แรงงานคน 1 คน สามารถเกี่ยวข้าวได้มากที่สุดพื้นที่ ประมาณ 0.5-1 ไร่/แรง/วัน ซึ่งค่าแรงประมาณ 170-200 บาท/วัน แต่ถ้าใช้เครื่องตัดหญ้าแบบสะพายหลัง แบบ 4 จังหวะ ซึ่งต้นทุนปีแรกอาจจะสูงไปนิดหนึ่ง แต่ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เนื่องจากสามารถนำไปรับจ้างเกี่ยวข้าวให้กับเพื่อนบ้าน เป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง ต้นทุนในการเกี่ยวข้าวด้วยเครื่องตัดหญ้าแบบสะพายหลัง ใช้น้ำมันเบนซิน 91 จำนวน 2 ลิตรต่อวัน ราคาลิตรละประมาณ 25 บาท ก็จะเสียค่าใช้จ่ายไปประมาณ 50 บาทต่อวัน ต่อคนตัด 1 คน ซึ่งสามารถเกี่ยวข้าวได้ 2 -4 ไร่ต่อวันต่อคน ขึ้นกับความชำนาญในการใช้เครื่องตัดหญ้า ก็หมายความว่าเราสามารถใช้เครื่องตัดหญ้าแบบสะพายหลังเกี่ยวข้าวแทนแรงงานคนได้ถึง 4-8 แรงต่อวัน และจะประหยัดเงินได้ถึงไร่ละ 120-150 บาท ซึ่งนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
อย่างไรก็ตามการใช้เครื่องตัดหญ้ามาใช้เกี่ยวข้าว ก็มีข้อด้อยด้วยกันหลายประการดังรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. ในกรณีที่ใช้กรงเกี่ยวข้าวที่ทำด้วยสแตนเลส และมีผ้าตาข่ายคลุม ที่ซื้อหาตามท้องตลาด เพื่อใช้ป้องกันการร่วงหล่นของเมล็ดข้าว และทำให้ข้าวที่เกี่ยวเสร็จล้มไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้เกิดความสะดวกในการเก็บหลังเกี่ยวนั้นมีข้อเสียคือ เครื่องเกี่ยวข้าวจะมีน้ำหนักมากเกินไป ทำให้ไม่สะดวกในการเกี่ยวข้าวเป็นระยะเวลานานๆ และไม่เหมาะกับแรงงานผู้หญิง ดังนั้นควรเลือกใช้กรงเกี่ยวข้าวแบบทำเอง ดังแสดงใน (ภาพที่ 3) เพราะมีน้ำหนักเบากว่า
2. การใช้เครื่องเกี่ยวข้าวชนิดนี้จะใช้ได้ดีเฉพาะนาดำเท่านั้น เนื่องจากระยะปักดำเป็นแถวเป็นแนว ทำให้เกิดความสะดวกในการเข้าไปเก็บเกี่ยวข้าว ส่วนในนาหว่านจะทำได้ไม่สะดวก
3. การใช้เครื่องเกี่ยวข้าวชนิดนี้ ไม่เหมาะกับนาข้าวที่ต้นข้าวมีความสูงเกินกว่า 120 เซนติเมตร เนื่องจากต้นข้าวที่มีความสูงมากเกินไป เมื่อใช้เครื่องตัดหญ้าตัดต้นข้าว จะทำให้ส่วนของต้นข้าวเข้าไปในเครื่องตัดหญ้า ทำให้เครื่องติดขัดไม่สามารถทำงานได้ นอกจากนั้นแล้วต้นข้าวที่มีความสูงมากๆ จะทำให้เกิดปัญหาข้าวล้ม ทำให้ไม่สามารถเก็บเกี่ยวด้วยเครื่องตัดหญ้าได้เช่นกัน
ขอบคุณบทความดีดีจาก
เครื่องตัดหญ้า
ตอบลบ